ฝนดาวตกคนคู่ เป็นฝนดาวตกที่มีชื่อกลุ่มหนึ่ง เพราะมีอัตราการตกค่อนข้างสูงและเกิดขึ้นในช่วงท้องฟ้าปลอดโปร่ง มีช่วงตกสูงสุดอยู่ที่ราววันที่ 14-15 เดือนธันวาคมของทุกปี
ฝนดาวตกเกิดจากการที่โลกเคลื่อนที่ตัดผ่านธารสะเก็ดดาว เมื่อสะเก็ดดาวตกลงมายังบรรยากาศโลกก็จะกลายเป็นดาวตก สะเก็ดดาวในธารสะเก็ดดาวมีต้นกำเนิดมาจากดาวหาง เมื่อดาวหางโคจรผ่านมาพร้อมกับทอดหางออกไป ก็จะทิ้งฝุ่นและอนุภาคต่าง ๆ ไว้ในวงโคจรเป็นธารสะเก็ดดาว การศึกษาเส้นทางการเคลื่อนที่ของธารสะเก็ดดาวทำให้นักดาราศาสตร์ทราบถึงดาวหางต้นกำเนิดของฝนดาวตกแต่ละกลุ่มได้ เช่น ฝนดาวตกนายพรานเกิดจากดาวหางแฮลลีย์ ฝนดาวตกสิงโตเกิดจากดาวหางเทมเพล-ทัตเทิล
แต่ฝนดาวตกชื่อดังอย่างฝนดาวตกคนคู่นักดาราศาสตร์กลับไม่พบดาวหางต้นกำเนิด ในปี พ.ศ. 2526 นักดาราศาสตร์ค้นพบดาวเคราะห์น้อย 3200 เฟทอน (3200 Phaethon) และพบว่าดาวเคราะห์น้อยดวงนี้มีวงโคจรตรงกับธารสะเก็ดดาวของฝนดาวตกคนคู่พอดี จึงสันนิษฐานว่า ดาวเคราะห์น้อยเฟทอนเป็นต้นกำเนิดของฝนดาวตกคนคู่
เฟทอนเป็นวัตถุแปลกประหลาด แม้จะได้ชื่อว่าเป็นดาวเคราะห์น้อย เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 6 กิโลเมตร ไม่ใช่วัตถุน้ำแข็งแบบดาวหาง แต่เฟทอนก็มีหางด้วย เป็นหางที่ประกอบด้วยฝุ่นเป็นหลัก ทำให้บางคนเรียกเฟทอนว่าเป็นดาวหางฝุ่น นักดาราศาสตร์เชื่อว่าดาวเคราะห์น้อยอย่างเฟทอนสร้างธารสะเก็ดดาวได้เหมือนกัน เพราะดาวเคราะห์น้อยดวงนี้มีวงโคจรที่เข้าใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดถึง 0.14 หน่วยดาราศาสตร์ ซึ่งเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ได้มากกว่าดาวพุธถึงกว่าเท่าตัว เมื่อเฟทอนโคจรมาถึงจุดนี้ พื้นผิวจะร้อนจนแห้งผากและแตกร่อน ทำให้เกิดฝุ่นกระเด็นขึ้นมา
ตามทฤษฎีดาวหางฝุ่นธารสะเก็ดดาวของเฟทอนเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ละรอบที่เฟทอนโคจรผ่านมาก็จะเป็นการเติมฝุ่นลงในธารสะเก็ดดาวให้หนาแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ทฤษฎีนี้ฟังดูดีแต่ก็มีปัญหา เพราะแม้จะอธิบายการเกิดธารสะเก็ดดาวได้ แต่ก็ไม่น่าจะสร้างสะเก็ดดาวได้มากจนทำให้ฝนดาวตกคนคู่มีอัตราตกสูงในระดับที่เป็นอยู่นี้ได้
องค์การนาซามียานอวกาศลำหนึ่งชื่อว่า พาร์กเกอร์ เป็นยานสำรวจดวงอาทิตย์โดยเฉพาะ แต่เส้นทางโคจรของพาร์กเกอร์ตัดผ่านธารสะเก็ดดาวจากเฟทอนด้วย จึงมีโอกาสสำรวจธารสะเก็ดดาวนี้ เมื่อฝุ่นปะทะเข้ากับยานด้วยความเร็วสูงจะทำให้เกิดสัญญาณไฟฟ้าและสนามแม่เหล็กที่อุปกรณ์บนยานตรวจวัดได้ นักดาราศาสตร์ใช้ข้อมูลจากยานพาร์กเกอร์วัดขนาดและองค์ประกอบของอนุภาคฝุ่น รวมถึงทิศทางและความเร็วในวงโคจร และนำมาเปรียบเทียบกับแบบจำลอง
นักวิจัยคณะนี้สร้างแบบจำลองหลายแบบขึ้นมาใช้เปรียบเทียบมีทั้งแบบที่เป็นอนุภาคที่นำมาวางในวงโคจรตรง ๆ แบบจำลองที่สร้างขึ้นตามทฤษฎีดาวหาง ซึ่งเฟทอนจะเติมฝุ่นลงในเส้นทางทุกครั้งที่โคจรผ่านมา และอีกแบบจำลองหนึ่งสร้างขึ้นตามสถานการณ์ที่ฝุ่นเกิดขึ้นมาจากการปะทุครั้งใหญ่ในอดีต
เมื่อเปรียบเทียบสิ่งที่ได้จากแบบจำลองกับผลการสำรวจแล้วพบว่าแบบจำลองแบบปะทุให้ผลใกล้เคียงกับการสำรวจมากที่สุด นั่นหมายความว่าทฤษฎีดาวหางฝุ่นไม่น่าจะถูกต้อง ต้นกำเนิดของฝนดาวตกคนคู่ไม่ได้เกิดอย่างเชื่องช้าหรือค่อยเป็นค่อยไป แต่เกิดจากเหตุการณ์รุนแรงบางอย่างในอดีต ซึ่งอาจเกิดจากมีดาวเคราะห์น้อยดวงเล็กกว่ามาพุ่งชน หรืออาจเป็นการปะทุบางอย่างของเฟทอนเอง
ฝนดาวตก
แต่ฝนดาวตกชื่อดังอย่างฝนดาวตกคนคู่
เฟทอนเป็นวัตถุแปลกประหลาด
ตามทฤษฎีดาวหางฝุ่น
องค์การนาซามียานอวกาศลำหนึ่ง
นักวิจัยคณะนี้สร้างแบบจำลองหลายแบบขึ้นมาใช้เปรียบเทียบ
เมื่อเปรียบเทียบสิ่งที่ได้จากแบบจำลองกับผลการสำรวจแล้ว