เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา จรวดฟัลคอน 9 ขึ้นสู่ท้องฟ้า มุ่งหน้าสู่ดวงจันทร์ สัมภาระที่ในเที่ยวบินนี้เป็นยานอวกาศหลายลำ ลำที่สำคัญที่สุดคือ ยานฮะกุโตะ-อาร์ (Hakuto-R) ขององค์การแจกซา ซึ่งจะไปลงจอดบนดวงจันทร์
นอกจากฮะกุโตะ-อาร์แล้วยังมีมียานอีกลำหนึ่งเดินทางไปดวงจันทร์ด้วยกัน มีชื่อว่า ลูนาร์แฟลชไลท์ เป็นยานอวกาศขนาดเล็ก บรรจุในโครงคิวบ์แซตขนาด 6 ยู น้ำหนักรวมเพียง 14 กิโลกรัม
ลูนาร์แฟลชไลท์เป็นโครงการขององค์การนาซาภารกิจของยานลำนี้คือ สำรวจหาแหล่งน้ำบริเวณขั้วใต้ของดวงจันทร์ โดยจะใช้วิธียิงเลเซอร์อินฟราเรดใกล้ใส่พื้นผิวดวงจันทร์ แล้วใช้สเปกโทรมิเตอร์บนยานตรวจวัดสเปกตรัมของรังสีที่สะท้อนกลับมา
"ถ้าเราจะกลับไปที่ดวงจันทร์อีกครั้งเราต้องคิดถึงเรื่องน้ำที่จะต้องใช้ในการดื่มกิน รวมถึงเชื้อเพลิงสำหรับจรวดด้วย" บาร์บารา โคเฮน หัวหน้าผู้สอบสวนของลูนาร์แฟลชไลท์กล่าว "น้ำเป็นของจำเป็น แต่มีค่าขนส่งแพงมาก หากเราสามารถหาแหล่งน้ำธรรมชาติบนดวงจันทร์ได้ ก็จะทุ่นค่าใช้จ่ายลงได้มาก"
นักดาราศาสตร์เชื่อว่าที่ขั้วใต้ของดวงจันทร์มีแหล่งน้ำอยู่ในก้นแอ่งที่มืดมิดโดยมีหลักฐานจากยานสำรวจในอดีตหลายลำ เช่น ลูนาร์โพสเปกเตอร์ แอลครอส ลูนาร์รีคอนเนสเซนซ์ออร์บิเตอร์
ภารกิจของลูนาร์แฟลชไลท์จะเน้นไปที่การหาแหล่งน้ำที่มีปริมาณมากพอที่จะง่ายพอที่จะสกัดออกมาใช้ประโยชน์
หลักการของลูนาร์แฟลชไลท์คือยิงเลเซอร์ลงไปบนพื้นผิว แล้ววิเคราะห์สเปกตรัมของแสงที่สะท้อนกลับมา หากพื้นผิวมีน้ำเป็นส่วนประกอบ รังสีอินฟราเรดที่สะท้อนกลับมาจะถูกดูดกลืนไปบางส่วน ซึ่งอาจตีความได้ว่าบริเวณที่แสงเลเซอร์ยิงใส่นั้นมีน้ำอยู่ ซึ่งอาจจะอยู่ในรูปของน้ำแข็งที่ขังอยู่ในแอ่ง หรือเป็นน้ำแข็งที่ฝังอยู่ในเนื้อหินก็ได้
เมื่อยานโคจรผ่านไปหลายรอบแล้วทำการวัดซ้ำในหลายจุด ก็จะมีข้อมูลมากพอที่จะสร้างแผนที่การกระจายของแหล่งน้ำแข็งบนพื้นผิวดวงจันทร์ได้ ข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ต่อภารกิจในอนาคตในการเลือกสถานที่ลงจอดบนดวงจันทร์
การที่ลูนาร์แฟลชไลท์มีขนาดเล็กมากจึงมีข้อจำกัดในเรื่องพื้นที่ภายในและแหล่งกำเนิดพลังงาน แสงเลเซอร์ที่จะยิงลงพื้นผิวดวงจันทร์จึงใช้แบบความเข้มต่ำใกล้เคียงกับเลเซอร์ชี้กระดานที่เด็กเล่นกัน ดังนั้นในการสำรวจแต่ละรอบยานจึงต้องโคจรในระยะใกล้พื้นผิวมาก ประมาณ 15-20 กิโลเมตรเท่านั้น
การควบคุมวิถีโคจรโคจรโดยให้โคจรระดับต่ำตลอดเวลาเป็นเรื่องยากมากทางผู้ออกแบบภารกิจจึงเลือกใช้การโคจรแบบใหม่ โดยโคจรเป็นวงรีมาก ในช่วงที่อยู่ไกลจากดวงจันทร์ที่สุดจะอยู่ไกลถึง 70,000 กิโลเมตร แต่ในช่วงที่ใกล้ที่สุดจะอยู่ห่างจากพื้นผิวเพียง 15 กิโลเมตรเท่านั้น สถานีอวกาศลูนาร์เกตเวย์ของนาซาที่จะสร้างขึ้นในอนาคตก็จะใช้วงโคจรแบบนี้เหมือนกัน
ลูนาร์แฟลชไลท์มีอายุภารกิจนาน8 เดือน ในช่วงเวลาดังกล่าวยานจะเข้าเฉียดดวงจันทร์ 10 ครั้ง ลูนาร์แฟลชไลท์เป็นภารกิจสาธิตเทคโนโลยี เพราะมีการทดสอบเทคโนโลยีใหม่หลายรายการ การใช้เลเซอร์ในการช่วยตรวจหาน้ำก็ไม่เคยมีการใช้ที่ไหนมาก่อน นอกจากนี้ลูนาร์แฟลชไลท์ยังใช้เชื้อเพลิงในระบบขับดันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าไฮดราซีนที่ยังใช้กันทั่วไปในยานอวกาศ
นอกจากฮะกุโตะ-อาร์แล้ว
ลูนาร์แฟลชไลท์เป็นโครงการขององค์การนาซา
"ถ้าเราจะกลับไปที่ดวงจันทร์อีกครั้ง
นักดาราศาสตร์เชื่อว่าที่ขั้วใต้ของดวงจันทร์มีแหล่งน้ำอยู่ในก้นแอ่งที่มืดมิด
ภารกิจของลูนาร์แฟลชไลท์จะเน้นไปที่การหาแหล่งน้ำที่มีปริมาณมากพอที่จะง่ายพอที่จะสกัดออกมาใช้ประโยชน์
หลักการของลูนาร์แฟลชไลท์คือ
เมื่อยานโคจรผ่านไปหลายรอบ
การที่ลูนาร์แฟลชไลท์มีขนาดเล็กมาก
การควบคุมวิถีโคจรโคจรโดยให้โคจรระดับต่ำตลอดเวลาเป็นเรื่องยากมาก
ลูนาร์แฟลชไลท์มีอายุภารกิจนาน