เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีการเปิดเผยการค้นพบดาวเคราะห์น้อยอันตรายดวงใหม่ที่ต้องจับตามอง ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ชื่อ 2024 วายอาร์ 4 (2024 YR4) ซึ่งค้นพบเมื่อปลายปีที่แล้ว ความน่าสนใจคือวิถีการเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์น้อยดวงนี้จะมาเฉียดใกล้โลกในวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ.2575 และมีโอกาสที่จะชนโลกประมาณ 1.2 เปอร์เซ็นต์ ประกอบกับขนาดของดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ที่ประเมินว่ามีเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ในช่วง 40-100 เมตร ทำให้ 2024 วายอาร์ 4 ขึ้นทำเนียบของดาวเคราะห์น้อยอันตรายหมายเลขหนึ่งทันที ด้วยความเสี่ยงระดับ 3 ตามมาตราโตริโน
ถัดมาอีกเพียงหนึ่งสัปดาห์ก็มีความคืบหน้าเกี่ยวกับดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ขึ้นมาอีก เมื่อมีการประเมินความเสี่ยงใหม่ พบว่ามีอัตราความเสี่ยงขยับขึ้นมาอีกเป็น 2.3 เปอร์เซ็นต์ หรือเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวเลยทีเดียว!
หลายคนอาจรู้สึกว่านี่มันช่างเหมือนพล็อตของหนังโลกแตกเสียจริงๆ อาจคิดว่าวันสิ้นโลกคงมาถึงแล้ว พาลแขนขาอ่อนแรง หมดกำลังจะทำงาน อย่าเพิ่งแตกตื่นไป อย่าเพิ่งไปถอนเงินมาหมดธนาคาร อย่าเพิ่งรีบลาออกจากงาน อย่าเพิ่งรีบเก็บของใส่กระเป๋าหนี ตั้งสติแล้วอ่านต่อ
คำว่าโอกาสชนโลก2.3 เปอร์เซ็นต์ หมายความว่า หากสุ่มคำนวณการเคลื่อนที่โดยให้มีตัวแปรอยู่ในช่วงความคลาดเคลื่อนเป็นจำนวน 1,000 ครั้ง จะมี 23 ครั้งที่ชนโลก เป็นความเสี่ยงที่คำนวณขึ้นจากตัวแปรต่าง ๆ เท่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน
เมื่อนักดาราศาสตร์ค้นพบวัตถุแปลกปลอมบนท้องฟ้าก็จะติดตามและบันทึกตำแหน่งให้ชัดเจน เมื่อนำมาใช้ในการคำนวณหาวงโคจร ยิ่งมีข้อมูลด้านตำแหน่งมาก ความแม่นยำของวงโคจรยิ่งสูง หากข้อมูลด้านตำแหน่งมีน้อย การคำนวณวงโคจรก็มีความแม่นยำต่ำ สำหรับดาวเคราะห์น้อย 2024 วายอาร์ 4 นักดาราศาสตร์เพิ่งเก็บข้อมูลของดาวเคราะห์น้อยดวงนี้มาเพียงเดือนเศษ ๆ ประกอบเป็นช่วงที่ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้กำลังถอยห่างออกจากโลกไป การวัดค่าต่าง ๆ จึงยังมีความคลาดเคลื่อนอยู่มาก
การคำนวณเส้นทางโคจรของดาวเคราะห์น้อย2024 วายอาร์ 4 แสดงว่า ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้จะเฉียดโลกไปด้วยระยะ 240,000 กิโลเมตร หรือประมาณสองในสามของระยะห่างระหว่างโลกกับดวงจันทร์ ถือเป็นระยะที่ปลอดภัย แต่เมื่อพิจารณาช่วงความคลาดเคลื่อนที่ยังกว้างมากอันเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนที่ยังสูงอยู่ จะพบว่าโลกยังอยู่ในรัศมีที่มีโอกาสพุ่งชนอยู่
ด้วยเหตุนี้การที่โอกาสถูกพุ่งชนขยับสูงขึ้นถึงเท่าตัวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็เป็นสิ่งที่อยู่ในความคาดหมายอยู่แล้ว นั่นจึงเป็นเหตุผลที่มาตรความเสี่ยงตามมาตราโตริโนยังคงอยู่ที่ 3 ไม่เปลี่ยนแปลง
ความไม่แน่นอนของวงโคจรจะยังคงสูงอยู่แม้จะน้อยลงตามระยะเวลาการคาดการณ์ที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดก็คือ ตัวเลขโอกาสการชนโลกจะขยับสูงขึ้นไปอีกสักระยะเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะลดลงไปอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นศูนย์ในที่สุด เมื่อนั้นก็จะวางใจได้ว่าโลกจะปลอดภัยจากดาวเคราะห์น้อยดวงนี้อย่างแน่นอน
ในปี2571 ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้จะวกกลับมาใกล้โลกอีกครั้งโดยจะอยู่ห่างจากโลกประมาณแปดล้านกิโลเมตร เมื่อนั้นนักดาราศาสตร์จะมีโอกาสวัดตำแหน่งได้อย่างแม่นยำและคำนวณวงโคจรได้อย่างเที่ยงตรง ถึงวันนั้นเราก็จะได้คำตอบที่ชัดเจนว่าจะเฉลิมฉลองหรือสวดมนต์ดี
สมมุติว่าโลกโชคร้ายดาวเคราะห์น้อย 2024 วายอาร์ 4 จะพุ่งชนโลกจริง ๆ แน่นอนว่าด้วยขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ นักดาราศาสตร์คาดว่าความรุนแรงเมื่อพุ่งชนจะอยู่ในระดับเดียวกับเหตุการณ์ที่ตุงกุสคาใน พ.ศ. 2451 ซึ่งในครั้งนั้นทำให้พื้นที่ป่าเสียหายนับล้านไร่ หากจุดพุ่งชนเกิดขึ้นในเมืองใหญ่ ย่อมทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตผู้คนอย่างมากแน่นอน อย่างไรก็ตาม ในกรณีของ 2024 วายอาร์ 4 โลกมีทางเลือกมากกว่าแค่รอให้มฤตยูมาเยือน การที่รู้สถานการณ์ล่วงหน้าเป็นเวลานาน หมายความว่าเรามีเวลามากพอที่เตรียมแผนรับมือดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ได้ เช่น ดำเนินแผนการอพยพผู้คนไปให้ห่างจากจุดพุ่งชน หรือหาทางเบี่ยงเส้นทางของดาวเคราะห์น้อยไม่ให้พุ่งชนโลกได้ ซึ่งภารกิจดาร์ตได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ววิธีนี้เป็นไปได้จริง
ถัดมาอีกเพียงหนึ่งสัปดาห์
หลายคนอาจรู้สึกว่านี่มันช่างเหมือนพล็อตของหนังโลกแตกเสียจริง
ดาวเคราะห์น้อยขณะชนโลกและระเบิดเหนือน่านฟ้าของเมืองเชลเลียบินสก์ ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2556 (จาก The Planetary Society/YouTube.)
คำว่าโอกาสชนโลก
เมื่อนักดาราศาสตร์ค้นพบวัตถุแปลกปลอมบนท้องฟ้า
การคำนวณเส้นทางโคจรของดาวเคราะห์น้อย
แผนภาพเส้นทางการเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์น้อยที่พุ่งเฉียดโลก โดยพิจารณาถึงความคลาดเคลื่อนในการวัดตำแหน่ง เหตุการณ์เกิดขึ้นตามลำดับ A, B และ C เส้นตรงสีส้มปลายลูกศรแสดงเส้นทางการเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์น้อยตามการคำนวณซึ่งพุ่งเฉียดโลก (วงกลมสีฟ้า) ไป เส้นประสีดำแสดงช่วงความคลาดเคลื่อน วงกลมพื้นที่สีชมพูขอบเส้นประทางขวาแสดงพื้นที่ตัดขวางของเส้นทางการเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์น้อยที่ระยะของโลก พื้นที่วงกลมยิ่งกว้างแสดงถึงช่วงความคลาดเคลื่อนที่มาก
ในช่วงแรก(ภาพ A) ระยะของดาวเคราะห์น้อยยังอยู่ไกล ช่วงความคลาดเคลื่อนยังกว้างและครอบคลุมโลก จึงมีโอกาสเล็ก ๆ ที่โลกจะถูกชนได้ ดังภาพทางขวา รัศมีของพื้นที่วงกลมสีชมพูยังคลุมโลกอยู่
เวลาต่อมา(ภาพ B) เมื่อข้อมูลด้านตำแหน่งของดาวเคราะห์น้อยมีมากขึ้น การคำนวณวงโคจรจึงมีความแม่นยำมากขึ้น ช่วงความคลาดเคลื่อนลดลง พื้นที่วงกลมสีชมพูก็เล็กลง แต่ยังคลุมโลกอยู่ การที่พื้นที่หน้าตัดของโลกยังเท่าเดิมแต่อยู่ในรัศมีความคลาดเคลื่อนที่ลดลง ทำให้โอกาสถูกชนขยับเพิ่มสูงขึ้น
เวลาต่อมา(ภาพ C) เมื่อข้อมูลด้านตำแหน่งของดาวเคราะห์น้อยมีมากขึ้นถึงระดับหนึ่ง รัศมีของความคลาดเคลื่อนเล็กลงไปอีกจนกระทั่งโลกอยู่นอกพื้นที่ไป แสดงว่าโอกาสที่โลกจะถูกพุ่งชนลดลงเหลือ 0
ในช่วงแรก
เวลาต่อมา
เวลาต่อมา
ด้วยเหตุนี้
ความไม่แน่นอนของวงโคจรจะยังคงสูงอยู่แม้จะน้อยลงตามระยะเวลา
ในปี
สมมุติว่าโลกโชคร้าย