ดวงจันทร์บังดาวอัลเดบารัน 14 มีนาคม 2559
คืนวันจันทร์ที่ 14 มีนาคม 2559 เวลาประมาณ 4-5 ทุ่ม พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศไทย ยกเว้นภาคใต้ จะมีโอกาสสังเกตดวงจันทร์เคลื่อนเข้าบังดาวอัลเดบารันหรือดาวตาวัว ซึ่งนับเป็นดาวที่สว่างดวงหนึ่งบนท้องฟ้า กล้องสองตาและกล้องโทรทรรศน์ที่มีฐานยึดมั่นคงจะสังเกตปรากฏการณ์นี้ได้ดี
(occultation) เป็นปรากฏการณ์ที่วัตถุท้องฟ้าบังกัน ส่วนใหญ่ใช้กับวัตถุที่มีขนาดปรากฏใหญ่มาบังวัตถุที่มีขนาดปรากฏเล็ก ดวงจันทร์บังดาวเกิดขึ้นบ่อย ๆ สำหรับดาวที่มีความสว่างน้อย แต่สำหรับดาวเคราะห์และดาวฤกษ์ที่สว่างมาก นาน ๆ เราจึงจะมีโอกาสเห็นได้สักครั้งหนึ่ง
การสังเกตดวงจันทร์บังดาวทำได้ดีสำหรับดวงจันทร์ข้างขึ้นเนื่องจากดวงจันทร์จะหันขอบด้านมืดเข้าบังดาวก่อน ดาวฤกษ์จะหายวับไปทันทีเบื้องหลังด้านมืดของดวงจันทร์ หลังจากนั้นดาวดวงเดิมจะกลับมาปรากฏอีกครั้งที่ขอบด้านสว่าง แต่ถ้าเป็นข้างแรมจะกลับกัน
ปรากฏการณ์ดวงจันทร์บังดาวอัลเดบารันที่จะเกิดในคืนวันที่14 มีนาคม ดวงจันทร์อยู่ในช่วงข้างขึ้น มีพื้นที่สว่างร้อยละ 38 มองเห็นเป็นเสี้ยว ด้านมืดของดวงจันทร์จึงเคลื่อนเข้าบังดาวก่อน
ชื่อดาวมาจากภาษาอาหรับที่แปลว่า "ผู้ติดตาม" เข้าใจว่าหมายถึงนักล่าที่ติดตามฝูงนก ซึ่งแทนด้วยกระจุกดาวลูกไก่ ดาวอัลเดบารันมีสีส้ม เป็นดาวฤกษ์ขนาดใหญ่ อายุมาก อยู่ห่างโลกประมาณ 65 ปีแสง ช่วง พ.ศ. 2558-2561 มีปรากฏการณ์ดวงจันทร์บังดาวอัลเดบารันเกิดขึ้นทั่วโลกทั้งหมด 49 ครั้ง (นับรวมทุกครั้ง โดยไม่สนใจว่าเห็นได้ที่ใดและเป็นเวลากลางคืนหรือไม่) ปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 มีนาคม 2559 เป็นครั้งแรกที่สามารถสังเกตได้บนท้องฟ้าเวลากลางคืนของประเทศไทย
ยกเว้นภาคใต้ เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 4 ทุ่มเศษ ขณะนั้นดวงจันทร์อยู่ต่ำทางทิศตะวันตก เวลาหัวค่ำ ก่อนการบัง ดาวอัลเดบารันจะปรากฏอยู่ห่างไปทางด้านบนของดวงจันทร์ เมื่อเวลาผ่านไป ดวงจันทร์จะเคลื่อนเข้าใกล้ดาวมากขึ้น พร้อมกับมีมุมเงยลดต่ำลง
คืนนั้นดวงจันทร์ควรจะสว่างพอสมควรแต่คาดว่าตาเปล่าอาจพอจะสังเกตเห็นได้ โดยเฉพาะในช่วงเริ่มบัง การสังเกตจะทำได้ดียิ่งขึ้นเมื่อใช้กล้องสองตาหรือกล้องโทรทรรศน์ที่มีฐานยึดและขาตั้ง ปรากฏการณ์ดวงจันทร์บังดาวฤกษ์ในลักษณะนี้ทำให้เราเห็นการเคลื่อนที่ของดวงจันทร์เทียบกับดาวฤกษ์ได้ชัดเจน
หลังจากครั้งนี้ดวงจันทร์บังดาวอัลเดบารันที่เห็นได้ในประเทศไทยจะเกิดขึ้นอีกครั้งในเช้ามืดวันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน 2559 โดยเห็นได้เฉพาะภาคเหนือในช่วงที่ท้องฟ้าเริ่มสว่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็อยู่ในพื้นที่ซึ่งสังเกตได้ แต่ช่วงที่เริ่มบัง ท้องฟ้าจะสว่างขึ้นจนอาจกลบแสงของดาวอัลเดบารัน
การบัง
การบังการสังเกตดวงจันทร์บังดาวทำได้ดีสำหรับดวงจันทร์ข้างขึ้น
ปรากฏการณ์ดวงจันทร์บังดาวอัลเดบารันที่จะเกิดในคืนวันที่
ดาวอัลเดบารัน
ดาวอัลเดบารันเป็นดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดในกลุ่มดาววัวเมื่อสังเกตจากประเทศไทย
การบังครั้งนี้สามารถสังเกตได้ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศสถานที่ | เริ่ม | สิ้นสุด | ||
---|---|---|---|---|
เวลา | มุมเงย | เวลา | มุมเงย | |
กรุงเทพฯ | 22:27 | 17° | 23:01 | 9° |
ขอนแก่น | 22:20 | 17° | 23:06 | 7° |
จันทบุรี | 22:31 | 15° | 23:00 | 8° |
เชียงใหม่ | 22:15 | 23° | 23:06 | 11° |
นครราชสีมา | 22:24 | 17° | 23:04 | 7° |
นครพนม | 22:19 | 16° | 23:08 | 5° |
ประจวบคีรีขันธ์ | 22:36 | 15° | 22:54 | 11° |
สุโขทัย | 22:19 | 21° | 23:05 | 10° |
อุบลราชธานี | 22:23 | 14° | 23:06 | 4° |
ตำแหน่งและเส้นทางการเคลื่อนที่ของดาวอัลเดบารันเมื่อเทียบกับดวงจันทร์ในคืนวันที่ 14 มีนาคม 2559 เวลาที่แสดงในภาพเป็นเวลาเริ่มและสิ้นสุดการบัง
คืนนั้นดวงจันทร์ควรจะสว่างพอสมควร
หลังจากครั้งนี้
แผนภาพแสดงเวลาเริ่มและสิ้นสุดการบัง จากแผนภาพจะเห็นว่าภาคเหนือเริ่มเห็นการบังก่อนภาคอื่น ๆ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือสิ้นสุดการบังช้าที่สุด จังหวัดที่อยู่ทางใต้ของประจวบคีรีขันธ์ลงไปไม่เห็นการบัง