สมาคมดาราศาสตร์ไทย

เหตุใดดาวศุกร์จึงสว่างนัก

เหตุใดดาวศุกร์จึงสว่างนัก

11 กรกฎาคม 2566
ปรับปรุงครั้งล่าสุด 10 ตุลาคม 2566
โดย: วิมุติ วสะหลาย (wimut@hotmail.com)
ช่วงนี้ (กรกฎาคม 2566) เวลาพลบค่ำจนถึงหัวค่ำ จะสังเกตเห็นดาวสว่างดวงหนึ่งอยู่ใกล้ขอบฟ้าทางทิศตะวันตก ดาวดวงนั้นสว่างอย่างผิดหูผิดตา ส่องแสงเป็นประกายนิ่งไม่กะพริบอย่างดาวฤกษ์ทั่วไป หากคุณพอมีความรู้เรื่องการดูดาวมาบ้าง หรือตรวจสอบตำแหน่งดูกับตารางตำแหน่งดาวเคราะห์กับซอฟต์แวร์ดูดาว ก็จะทราบว่า มันคือดาวศุกร์

ในบรรดาดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ มีอยู่ห้าดวงที่เรามองเห็นได้ด้วยตาเปล่า นั่นคือ ดาวพุธ ดาวศุกร์ ดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี และดาวเสาร์

เราอาจนับรวมดาวยูเรนัสเข้าไปด้วยเป็นหกดวงก็พอได้ เพราะในช่วงที่มีความสว่างมากที่สุดดาวยูเรนัสมีความสว่างได้ถึงอันดับ 5.6 ซึ่งอยู่ในระดับที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่ดาวฤกษ์ที่มีความสว่างระดับใกล้เคียงกับดาวยูเรนัสมีอยู่เป็นจำนวนมากจนดูกลืนไปกับพื้นหลังจนหมด เป็นเรื่องยากในทางปฏิบัติที่จะจำแนกได้ว่าจุดแสงจุดไหนคือดาวยูเรนัสด้วยตาเปล่า ดังนั้นโดยทั่วไปจึงถือว่าดาวยูเรนัสมองเห็นไม่ได้ด้วยตาเปล่า 

ดาวศุกร์และดวงจันทร์ ถ่ายที่หน้ากระทรวงกลาโหมตรงข้ามพระบรมมหาราชวัง (จาก กมล แย้มอุทัย)

ในบรรดาดาวเคราะห์ทั้งห้าดวงที่กล่าวมาแล้ว ดาวศุกร์มีความสว่างมากที่สุด โดยในช่วงที่สว่างที่สุดมีอันดับความสว่างถึง -4.7 ซึ่งสว่างกว่าดาวซิริอัสที่เป็นดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดบนท้องฟ้ายามค่ำคืนถึง 16 เท่า และหากจะเทียบกับวัตถุท้องฟ้าทั้งหมดแล้ว ความสว่างของดาวศุกร์เป็นรองเพียงดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เท่านั้น 

ดาวเคราะห์                       อันดับความสว่าง (โชติมาตร)
ดาวศุกร์                        -4.7
ดาวอังคาร-2.9
ดาวพฤหัสบดี-2.8
ดาวพุธ-1.9
ดาวเสาร์0.7
แสดงอันดับความสว่างของดาวเคราะห์ในช่วงที่สว่างที่สุด


ดาวศุกร์สว่างได้มากกว่าดาวฤกษ์ทั่วไปมาก ประกอบกับช่วงที่ดาวศุกร์สว่างที่สุดเกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ในรอบปี ดาวศุกร์ในช่วงที่สว่างที่สุดจึงอาจเป็นสิ่งไม่คุ้นเคยสำหรับคนที่ไม่ได้สังเกตท้องฟ้าเป็นประจำ หลายคนถึงกับคิดเลยเถิดไปถึงสิ่งที่ไม่ใช่ดาว บางคนถึงขั้นเข้าใจว่าเป็นยูเอฟโอ  ในหมู่นักท่องป่าของไทยเคยมีเรื่องเล่าของนายพรานสมัครเล่นที่ออกส่องไฟล่าสัตว์ตอนกลางคืน เมื่อเห็นแสงดาวศุกร์สว่างโร่ส่องแสงลอดช่องไม้ของป่าทึบเข้ามาแล้วก็เข้าใจไปว่าเป็นตากวาง ซัดเปรี้ยงเข้าให้ แต่ไม่ว่าจะยิงไปกี่นัด กวางนั่นก็ไม่ล้มไม่หนีเสียที กว่าจะรู้ว่าตนหลงไปยิงดาวศุกร์เข้าให้แล้วก็หมดกระสุนไปไม่น้อย รู้ถึงไหนอายเขาถึงนั่น

ภาพสีจริงของดาวศุกร์ ถ่ายโดยยานแมสเซนเจอร์ (จาก NASA)

หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า ในช่วงที่สว่างที่สุด เราอาจมองเห็นดาวศุกร์ได้ในเวลากลางวันเลยทีเดียว ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการมองหาดาวศุกร์ในเวลากลางวันคือ ในวันฟ้าใสก่อนพระอาทิตย์จะตกดิน เอามือปิดดวงอาทิตย์หรือแอบอยู่หลังสิ่งกำบังเพื่อปิดแสงจ้าของดวงอาทิตย์ไป แล้วกวาดสายตาหาจุดแสงในตำแหน่งที่ดาวศุกร์อยู่ คุณอาจใช้กล้องสองตาช่วยด้วยก็ได้ เมื่อกล้องสองตาช่วยให้พบดาวศุกร์ได้แล้วค่อยเอากล้องออกแล้วมองไปที่ตำแหน่งเดิมอีกครั้งด้วยตาเปล่า ก็จะสังเกตจุดของดาวศุกร์ได้ไม่ยาก สำหรับตำแหน่งที่แน่นอนของดาวศุกร์ ลองตรวจสอบกับเว็บไซต์หรือซอฟต์แวร์ดูดาวหรือแอปพลิเคชันแผนที่ดาวก็ได้

เหตุใดจึงสว่างนัก


เคยสงสัยกันหรือไม่ ดาวศุกร์มีขนาดใกล้เคียงกับโลก ในขณะที่ดาวพฤหัสบดีมีขนาดใหญ่กว่าโลกถึง 11 เท่า ดาวเสาร์ใหญ่กว่าโลก เท่า แต่ดาวยักษ์ทั้งสองกลับสว่างไม่ได้ครึ่งของดาวศุกร์ นั่นเพราะขนาดของดาวเคราะห์ไม่ใช่ปัจจัยเดียวของความสว่างนั่นเอง

ดาวเคราะห์ส่องแสงเองไม่ได้ แสงจากดาวเคราะห์เกิดจากการสะท้อนแสงอาทิตย์ ความสว่างปรากฏของดาวเคราะห์ขึ้นอยู่กับสี่ปัจจัยหลัก คือ 1. ระยะห่างระหว่างดาวเคราะห์นั้นกับดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์ยิ่งอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ก็จะยิ่งสว่าง 2. ระยะห่างระหว่างดาวเคราะห์นั้นกับโลก ดาวเคราะห์ยิ่งอยู่ใกล้โลก เราก็ยิ่งมองเห็นสว่างมากขึ้น 3. พื้นที่ส่องสว่าง (ดิถี) บนดาวเคราะห์  ดาวเคราะห์ที่มีพื้นที่ส่องสว่างมากย่อมปรากฏสว่างมากขึ้นด้วย และ 4. อัตราสะท้อนแสงของดาวเคราะห์ ดาวเคราะห์ที่พื้นผิวขาวซีดย่อมปรากฏสว่างได้มากกว่าดาวเคราะห์ที่พื้นผิวมืดคล้ำ

ดาวศุกร์เป็นดาวเคราะห์วงใน หมายความว่ามีวงโคจรอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ได้มากกว่าโลก แสงอาทิตย์ที่ดาวศุกร์ได้รับก็มีความเข้มมากด้วย นอกจากนี้ดาวศุกร์ยังมีวงโคจรถัดจากโลกเข้ามา จึงมีโอกาสเข้าใกล้โลกได้มากที่สุด ในช่วงที่เข้าใกล้โลกมาก จะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเชิงมุมเกินหนึ่งลิปดา แม้ในช่วงที่เข้าใกล้โลกดิถีของดาวศุกร์จะเป็นเสี้ยวบาง ๆ ก็ตาม แต่ขนาดปรากฏที่ใหญ่ขึ้นทำให้พื้นที่ส่องสว่างปรากฏกว้างมาก ดาวศุกร์ในช่วงที่เป็นเสี้ยวจึงสว่างได้มากกว่าช่วงที่สว่างใกล้เต็มดวง

ภาพวาดแสดงให้เห็นส่วนสว่างของดาวเคราะห์และขนาดปรากฏเปรียบเทียบในปี 2566  (จาก วรเชษฐ์ บุญปลอด)

แผนภูมิวงโคจรของโลกและดาวศุกร์ แสดงภาพปรากฏของดาวศุกร์ ณ ตำแหน่งต่าง ๆ ในวงโคจร โดยให้โลกและดวงอาทิตย์คงที่   ที่ตำแหน่ง คือจุดร่วมทิศแนววงใน ดาวศุกร์อยู่ใกล้โลกที่สุดแต่มองไม่เห็น ที่ตำแหน่ง และ B' คือตำแหน่งของดาวศุกร์ 36 วันก่อนและหลังการร่วมทิศแนววงในตามลำดับ เป็นตำแหน่งที่ดาวศุกร์มีพื้นที่ส่องสว่างเชิงมุมมากที่สุด จึงเป็นช่วงที่ดาวศุกร์สว่างที่สุด ที่ตำแหน่ง และ D' แม้ดาวศุกร์มีพื้นที่ส่องสว่างเกือบเต็มดวง แต่อยู่ห่างจากโลกมาก ความสว่างโดยรวมจึงไม่มากเท่าช่วงอื่น 

ประการสุดท้ายที่ทำให้ดาวศุกร์ครองแชมเปี้ยนด้านความสว่างอย่างไร้คู่ต่อกรก็คือ ดาวศุกร์สะท้อนแสงดีมาก สะท้อนแสงที่ตกกระทบได้มากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ซึ่งสูงที่สุดในบรรดาดาวเคราะห์ทั้งหมด อัตราสะท้อนระดับนี้ใกล้เคียงกับอัตราสะท้อนแสงของพื้นที่หิมะปกคลุมเลยทีเดียว ความจริงสิ่งที่สะท้อนแสงบนดาวศุกร์ไม่ใช่พื้นผิว แต่เป็นชั้นเมฆ บรรยากาศของดาวศุกร์หนาแน่นมากจนเมื่อมองจากภายนอกจะมองเห็นได้เพียงชั้นเมฆเท่านั้น ไม่มีทางมองเห็นพื้นผิวได้เลย  สีขาวนวลอมเหลืองของดาวศุกร์ก็คือสีของเมฆบนดาวศุกร์นั่นเอง 
ดาวเคราะห์อัตราสะท้อน (แอลบีโด)
ดาวศุกร์0.69
ดาวพฤหัสบดี0.54
ดาวเสาร์0.50
โลก0.43
ดาวอังคาร0.17
ดาวพุธ0.14
ตารางแสดงอัตราสะท้อนแสง (แอลบีโด) ของดาวเคราะห์ ดวง (ที่มา wikipedia)


เมื่อพิจารณาปัจจัยทั้งสี่แล้ว จะเห็นว่าดาวศุกร์ได้เปรียบเหนือกว่าดาวเคราะห์ดวงอื่นเกือบทุกข้อ จึงทำให้มีความสว่างมากที่สุด 

ดาวศุกร์เป็นดาวเคราะห์วงใน ขณะที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ดิถีจึงเปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่เป็นเสี้ยวบางเฉียบจนถึงเกือบเต็มดวง ระยะห่างระหว่างโลกกับดาวศุกร์ก็เปลี่ยนไปอย่างมากเช่นกัน ดังนั้นดาวศุกร์จึงมีความสว่างผันแปรมาก ช่วงที่ดาวศุกร์สว่างมากที่สุดคือ ณ เวลาประมาณ 36 วันก่อนและหลังตอนที่อยู่ระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ (ร่วมทิศแนววงในในช่วงเวลาดังกล่าวดาวศุกร์จะอยู่ใกล้โลกมาก และเป็นรูปเสี้ยวสวยงามใกล้เคียงกับดวงจันทร์วันขึ้น 4-5 ค่ำ ดังนั้นคนที่มีกล้องสองตาหรือกล้องดูดาว อย่าลืมนำมาส่องดูดาวศุกร์ในช่วงนี้ด้วยจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของรูปร่างดาวศุกร์อย่างชัดเจน 

เมื่อสังเกตดาวศุกร์ทุกวัน จะสังเกตว่าดาวศุกร์ที่ปรากฏในตอนหัวค่ำ หรือที่เรียกว่าดาวประจำเมือง ดิถีของดาวศุกร์เป็นเสี้ยวบางลงเรื่อย ๆ หลังจากผ่านช่วงที่สว่างที่สุดแล้ว ตำแหน่งของดาวศุกร์ก็ขยับเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ไปทุกวัน จนกระทั่งจมหายไปในแสงจ้าของดวงอาทิตย์ ในช่วงที่ดาวศุกร์เข้ามาอยู่ระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ เราจะไม่มีโอกาสเห็นดาวศุกร์ จนกระทั่งดาวศุกร์แซงหน้าไปสักระยะหนึ่ง เราก็จะมีโอกาสเห็นดาวศุกร์อีกครั้ง แต่ต้องไปดูเวลาเช้ามืด กลายเป็นดาวประกายพรึก จากนั้นลำดับขั้นตอนของดิถีและการเปลี่ยนแปลงความสว่างจะเกิดย้อนทางกับช่วงก่อนหน้า 

อ่านเพิ่มเติม

 ดาวเคราะห์ในปี 2566