สมาคมดาราศาสตร์ไทย

พบบริวารดวงใหม่ของโลก

พบบริวารดวงใหม่ของโลก

27 ต.ค. 2560
รายงานโดย: วิมุติ วสะหลาย (wimut@hotmail.com)
วิษณุ เรดดี นักวิทยาศาสตร์จากห้องทดลองดวงจันทร์และดาวเคราะห์ของมหาวิทยาลัยแอริโซนา ได้เปิดเผย ณ ที่ประชุมนักดาราศาสตร์ดาวเคราะห์ในโพรโว รัฐยูทาห์ว่า วัตถุดวงหนึ่งซึ่งถูกค้นพบในปี 2559 นั้นโคจรรอบดวงอาทิตย์ไปพร้อม ๆ กับที่โคจรรอบโลกไปด้วย ราวกับเป็นบริวารอีกดวงหนึ่งของโลก

ก่อนหน้านี้มีการตั้งข้อสงสัยต่อวัตถุดวงนี้ว่าอาจเป็นเพียงขยะอวกาศที่ยานอวกาศทิ้งไว้เมื่อนานมาแล้ว แต่การศึกษาสมบัติทางกายภาพด้วยกล้องโทรทรรศน์แอลบีที ซึ่งเป็นกล้องโทรทรรศน์ใหญ่ถึง 8.4 เมตร จึงทราบว่าวัตถุดวงนี้ไม่ใช่ซากจรวดที่ทิ้งไว้ในวงโคจร และไม่ใช่ขยะอวกาศ การวิเคราะห์สเปกตรัมและความสว่าง พบว่ามีสมบัติทางกายภาพเหมือนดาวเคราะห์น้อยทั่วไป มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่ใหญ่ไปกว่า 100 เมตร หมุนรอบตัวเองด้วยคาบ 28 นาที 

ชื่อของวัตถุดวงนี้คือ 2016 เอชโอ 3 (2016 HO3) เป็นดาวเคราะห์น้อยประเภท ดาวเคราะห์น้อยใกล้โลก ดาวเคราะห์น้อยจำพวกนี้มีวงโคจรใกล้เคียงกับของโลก บางครั้งเมื่อเข้าใกล้โลก ก็จะถูกโลกคว้าจับเอามาโคจรรอบตัวเองเหมือนเป็นบริวารดวงหนึ่ง แต่วงโคจรรอบโลกของดาวเคราะห์น้อยจำพวกนี้จะไม่เสถียร หลังจากที่เข้ามาเป็นบริวารของโลกเป็นระยะเวลาหนึ่ง ก็จะหลุดจากพันธนาการของโลกไป นักดาราศาสตร์จึงไม่ถือว่าเป็นบริวารแท้ แต่เรียกว่า วัตถุคล้ายบริวาร (quasi-satellite) 

2016 HO3 ไม่ใช่วัตถุคล้ายบริวารของโลกดวงแรกที่ถูกค้นพบ แต่เป็นดวงที่ห้าแล้ว อย่างไรก็ตาม 2016 HO3 มีความพิเศษตรงที่วงโคจรมีความเสถียรมากที่สุด นักดาราศาสตร์เชื่อว่าวัตถุดวงนี้ได้เข้ามาเป็นบริวารของโลกหลายร้อยปีแล้ว และจะยังอยู่ในวงโคจรต่อไปอีกเป็นร้อยปีเช่นกัน

แม้ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้จะอยู่ใกล้โลก แต่ก็ไม่เป็นอันตรายต่อโลก ไม่พบว่ามีแนวโน้มว่าจะชนโลกในอนาคตอันใกล้แต่อย่างใด ในทางตรงข้าม นักวิทยาศาสตร์มองว่าเป็นเรื่องดีในแง่การสำรวจ เพราะการที่วัตถุดวงนี้วนอยู่รอบ ๆ โลก ทำให้การเดินทางหรือส่งยานไปสำรวจระยะใกล้ทำได้ง่ายกว่าดาวเคราะห์น้อยดวงอื่น


ดาวเคราะห์น้อย <wbr>2016 <wbr>เอชโอ <wbr>3 <wbr>(จุดนิ่งทางขวาบนของภาพ) <wbr>ถ่ายโดยกล้องแอลบีที<br />

ดาวเคราะห์น้อย 2016 เอชโอ (จุดนิ่งทางขวาบนของภาพ) ถ่ายโดยกล้องแอลบีที
(จาก LBTO)

กราฟแสงของ 2016 เอชโอ 3 วัดโดยกล้องแอลบีที (จาก LBTO)

ที่มา: