เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ปีที่แล้ว ดาวหางไซดิงสปริง (C/2013 A1) ได้พุ่งเฉียดดาวอังคารด้วยระยะเพียง 135,000 กิโลเมตร นักดาราศาสตร์พบว่าการเฉียดที่เกือบจะเป็นการชนกันในครั้งนั้นทำให้บรรยากาศชั้นนอกของดาวอังคารได้รับสสารจากดาวหางได้โดยตรง โดยพบว่ามีฝุ่นจากดาวหางดวงนี้จำนวนมากถึง 1-2 ตันตกลงสู่บรรยากาศของดาวอังคาร
ฝุ่นเหล่านี้ประกอบด้วยแมกนีเซียมซิลิคอน แคลเซียม และโพแทสเซียม ซึ่งล้วนเป็นส่วนประกอบที่สร้างเป็นหิน นอกจากนี้ ดาวหางไซดิงสปริงยังทิ้งคาร์บอนไดออกไซด์ ไนโตรเจน และน้ำจำนวนไม่น้อยไว้ด้วย แต่สารเหล่านี้ตรวจจับไม่ได้เนื่องจากในบรรยากาศของดาวอังคารมีสสารเหล่านี้อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามนักดาราศาสตร์เชื่อว่าการปนเปื้อนนี้ส่งผลกระทบระยะยาวต่อดาวอังคารน้อยมาก
เป็นความโชคดีอย่างหนึ่งของนักดาราศาสตร์ที่ดาวหางดวงนี้เข้ามาเยือนดาวอังคารในช่วงที่มียานสำรวจปฏิบัติภารกิจอยู่บนดาวอังคารหลายลำเป็นโอกาสที่ยานเหล่านั้นได้สำรวจดาวหางได้ในระยะใกล้ชิด กรณีของไซดิงสปริงนี้เป็นการสำรวจดาวหางระยะใกล้ในขณะที่ยังอยู่ไกลจากโลกมาก ซึ่งเทคโนโลยีจรวดปัจจุบันยังไปสำรวจดาวหางไกลจากโลกขนาดนั้นไม่ได้
ยานมาร์สริคอนนิเซนส์ออร์บิเตอร์ได้สำรวจดาวหางดวงนี้และพบว่านิวเคลียสมีขนาด0.7 กิโลเมตร ซึ่งเล็กกว่าวัตถุไคเปอร์ทั่วไป นับเป็นเรื่องแปลกที่ดาวหางดวงนี้ยังคงสภาาพเป็นดาวหางอยู่ เพราะเมื่อเทียบอายุ 4.5 พันล้านปีของระบบสุริยะแล้ว การถูกความร้อนจากดวงอาทิตย์แผดเผาเป็นเวลานานน่าจะทำให้ดาวหางเล็กขนาดนี้สลายไปหมดแล้ว
ยานมาเวนดาวเทียมสำรวจดาวอังคารขององค์การนาซาอีกลำหนึ่ง ซึ่งเดินทางไปถึงดาวอังคารปีที่แล้วในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับการเข้าใกล้ของดาวหาง ก็ได้มีโอกาสสังเกตว่าดาวหางไซดิงสปริงส่งผลกระทบอย่างไรต่อบรรยากาศของดาวอังคาร
ในขณะเดียวกันยานคิวริโอซิตีกับออปพอร์ทูนิตี ซึ่งเป็นรถสำรวจที่แล่นอยู่บนดาวอังคารมาหลายปีแล้วก็มีโอกาสได้แหงนหน้าขึ้นถ่ายภาพดาวหางดวงนี้จากภาคพื้นดินด้วย ทำให้นักดาราศาสตร์ได้เห็นภาพดาวหางจากโลกใบอื่นเป็นครั้งแรก
นักดาราศาสตร์หลายคนเชื่อว่าน้ำบนโลกมาจากดาวหาง ทฤษฎีนี้อธิบายว่า ตั้งแต่ระบบสุริยะกำเนิดขึ้นมา มีดาวหางจำนวนมากแวะเวียนเข้ามาในระบบสุริยะชั้นใน บางดวงอาจชนหรือเฉียดโลกและได้ทิ้งน้ำเอาบนโลก น้ำจากดาวหางดวงแล้วดวงเล่าได้สะสมกันมากขึ้นจนกลายเป็นมหาสมุทรอย่างที่เราเห็นกันทุกวันนี้ กรณีของดาวหางไซดิงสปริงน่าจะเป็นตัวอย่างหนึ่งของกระบวนการดังกล่าวที่เคยเกิดขึ้นกับโลก
ฝุ่นเหล่านี้ประกอบด้วยแมกนีเซียม
อย่างไรก็ตาม
เป็นความโชคดีอย่างหนึ่งของนักดาราศาสตร์ที่ดาวหางดวงนี้เข้ามาเยือนดาวอังคารในช่วงที่มียานสำรวจปฏิบัติภารกิจอยู่บนดาวอังคารหลายลำ
ยานมาร์สริคอนนิเซนส์ออร์บิเตอร์ได้สำรวจดาวหางดวงนี้และพบว่านิวเคลียสมีขนาด
ยานมาเวน
ในขณะเดียวกัน
นักดาราศาสตร์หลายคนเชื่อว่าน้ำบนโลกมาจากดาวหาง