วันนี้ (1 พฤศจิกายน) องค์การอวกาศรัสเซียหรือรอสคอสมอส ได้แถลงข่าวถึงผลการสอบสวนหาสาเหตุที่ทำให้การส่งจรวดโซยุซล้มเหลวเมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา

คลิปวิดีโอที่รอสคอสมอสนำมาเผยแพร่ เป็นคลิปที่ถ่ายจากกล้องที่ติดบนจรวด แสดงถึงการปล่อยจรวดขึ้นจากฐานที่เป็นไปตามปกติในช่วงแรก แต่เมื่อถึงวินาทีที่ 118 ซึ่งเป็นเวลาที่จรวดส่งตอนแรกทั้งสี่ลำต้องปลดตัวเองออกจากลำแกนกลับเกิดปัญหา ซึ่งตามมาด้วยภาพที่แสดงถึงจรวดตอนบนที่กล้องติดอยู่พลิกตลบอย่างไร้การควบคุม


เจ้าหน้าที่ของรอสคอสมอสได้อธิบายว่า ต้นเหตุของปัญหาเกิดขึ้นที่จรวดส่งตอนที่หนึ่งลำหนึ่งจากจำนวนสี่ลำ โดยตัวตรวจจับการแยกตัวตัวหนึ่งเกิดเสียหาย ส่งผลให้จรวดส่งท่อนนั้นกระแทกเข้ากับลำแกนในตำแหน่งที่เป็นถังเชื้อเพลิง จนเสียความดันและเสียการควบคุมไปในที่สุด


อย่างไรก็ตาม การสืบสวนระบุว่า ความเสียหายของตัวตรวจจับดังกล่าวไม่ได้เกิดจากกระบวนการผลิต แต่เกิดขึ้นในระหว่างการประกอบจรวดในท่าอวกาศยานไบโคนอร์

อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม เกิดขึ้นในภารกิจส่งมนุษย์สองคนขึ้นไปประจำการบนสถานีอวกาศนานาชาติ มนุษย์อวกาศสองคนนั้นได้แก่ นิก เฮก จากองค์การนาซา และ อะเล็กเซย์ ออฟชินิน จากองค์การรอสคอสมอส อย่างไรก็ตาม ระบบลี้ภัยฉุกเฉินบนจรวดโซยุซทำงานได้อย่างสมบูรณ์ สามารถนำมนุษย์อวกาศทั้งสองกลับลงสูงพื้นดินได้อย่างปลอดภัย


นอกจากจะเปิดเผยผลการสืบสวนแล้ว รอสคอสมอสยังเผยแผนการส่งจรวดไปยังสถานีอวกาศนานาชาติในอนาคตอันใกล้อีกด้วย โดยในวันที่ 16 พฤศจิกายนนี้ จรวดโซยุซเอฟจีจะนำยานโปรเกรสเอ็มเอส-10 ซึ่งเป็นยานขนสัมภาระไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ ส่วนภารกิจนำมนุษย์ขึ้นไปยังสถานีที่เคยถูกระงับไว้ ก็เปิดไฟเขียวให้ดำเนินต่อไปตามแผนได้ โดยภารกิจถัดไปคือ โซยุซเอ็มเอส-11 จะขึ้นไปในวันที่ 3 ธันวาคมซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิมที่วางไว้

ส่วนมนุษย์อวกาศสามคนที่อยู่บนสถานีในขณะนี้ก็จะได้กลับสู่โลกในวันที่ 20 ธันวาคม ซึ่งเลื่อนไปจากกำหนดเดิมไปหนึ่งสัปดาห์