ช่วงนี้เป็นช่วงที่ธุรกิจการบินอวกาศเชิงพาณิชย์กำลังคึกคัก หลังจากที่สเปซเอกซ์กับบลูออริจินส์ได้แข่งกันเป็นข่าวออกหน้าสื่อกันอย่างเอิกเริกในปีที่ผ่านมา คราวนี้ก็ถึงคราวเวอร์จินออร์บิตออกโรงบ้าง
เวอร์จินออร์บิตซึ่งเป็นบริษัทในเครือเวอร์จินของริชาร์ด แบรนสัน ได้เผยโฉมจรวดส่งดาวเทียมรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน เชื่อว่าระบบนี้จะมีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นกว่าระบบเดิมที่คุ้นเคยกัน
จรวดนี้มีชื่อว่าลอนเชอร์วัน เป็นจรวดส่งดาวเทียมขนาดเล็ก ยาว 21 เมตร 70 ฟุต หนัก 26 ตัน ลอนเชอร์วันเป็นจรวดสองตอน ใช้อาร์พี-1 เป็นเชื้อเพลิงและออกซิเจนเหลวเป็นออกซิไดเซอร์ มีระวางบรรทุก 500 กิโลกรัม จรวดลอนเชอร์วันไม่ได้ขึ้นสู่ท้องฟ้าจากแท่นปล่อยที่ทุกคนคุ้นตา จรวดนี้ขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยอาศัยเกาะใต้ปีกไปกับเครื่องบินชื่อ คอสมิกเกิร์ล ซึ่งดัดแปลงมาจากเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 747-400
การส่งดาวเทียมรูปแบบใหม่นี้เริ่มจากคอสมิกเกิร์ลขึ้นสู่ท้องฟ้าจากรันเวย์เหมือนเครื่องบินทั่วไปโดยมีลอนเชอร์วันติดไปด้วยเมื่อถึงระดับความสูง 10.6 กิโลเมตร คอสมิกเกิร์ลจะเชิดหัวขึ้นเป็นมุม 25 องศากับพื้นดิน แล้วปล่อยจรวด จรวดพุ่งออกไปด้วยพลังขับดันของเครื่องยนต์นิวตันทรีเป็นเวลาประมาณสามนาที หลังจากนั้นก็ปลดตัวเองออกไป ปล่อยให้จรวดตอนที่สองทำงานต่อ
จรวดตอนที่สองทำงานด้วยเครื่องยนต์นิวตันโฟร์มีเวลาเดินเครื่องรวมราวหกนาที เมื่อจรวดพามาถึงระยะเป้าหมายก็จะปล่อยดาวเทียมออกสู่วงโคจร
จรวดของลอนเชอร์วันเป็นแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งทั้งสองตอนถูกปล่อยตกลงสู่โลกในจุดปลอดภัย ส่วนคอสมิกเกิร์ลก็บินกลับรันเวย์
ลอนเชอร์วันจะมีระวางบรรทุกไม่มากนักดาวเทียมที่ใหญ่ที่สุดที่ส่งได้อาจใหญ่เท่าตู้เย็นหนึ่งหลังเท่านั้น แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะเป้าหมายของลอนเชอร์วันคือการส่งดาวเทียมขนาดเล็กซึ่งเป็นตลาดที่นับวันมีแต่จะโตขึ้นเรื่อย ๆ
การปล่อยจรวดของลอนเชอร์วันมีข้อได้เปรียบเหนือการปล่อยจรวดแบบยิงจากฐานปล่อยในแง่ของความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพการส่งดาวเทียมด้วยจรวดทั่วไปที่ขึ้นจากแท่นปล่อยต้องมีระบบสนับสนุนมาก อ่อนไหวต่อสภาพลมฟ้าอากาศ แต่ลอนเชอร์วันต้องการเพียงรันเวย์ขนาดใหญ่เท่านั้น นำเครื่องขึ้นได้แม้ในสภาพอากาศที่ทำให้การปล่อยจรวดปกติทำไม่ได้ นอกจากนี้ยังไม่มีข้อจำกัดด้านทิศทางและเวลาเพราะขึ้นบินได้ตลอดเวลา และพร้อมบินได้ในเกือบจะทันที ในขณะที่การส่งดาวเทียมแบบปล่อยจรวดจากฐานปล่อย เจ้าของดาวเทียมต้องรอกำหนดปล่อยซึ่งอาจนานถึงสองปี
คาดว่าเวอร์จินออร์บิตจะทดสอบปล่อยจรวดลอนเชอร์วันครั้งแรกในปีหน้าแต่ยังไม่กำหนดวันที่แน่นอน
เวอร์จินออร์บิต
จรวดนี้มีชื่อว่า
การส่งดาวเทียมรูปแบบใหม่นี้เริ่มจากคอสมิกเกิร์ลขึ้นสู่ท้องฟ้าจากรันเวย์เหมือนเครื่องบินทั่วไปโดยมีลอนเชอร์วันติดไปด้วย
จรวดตอนที่สองทำงานด้วยเครื่องยนต์นิวตันโฟร์
จรวดของลอนเชอร์วันเป็นแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง
ลอนเชอร์วันจะมีระวางบรรทุกไม่มากนัก
การปล่อยจรวดของลอนเชอร์วันมีข้อได้เปรียบเหนือการปล่อยจรวดแบบยิงจากฐานปล่อยในแง่ของความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพ
คาดว่าเวอร์จินออร์บิตจะทดสอบปล่อยจรวดลอนเชอร์วันครั้งแรกในปีหน้า