ดวงจันทร์บังดาวอังคาร 17 เมษายน 2564
คืนวันเสาร์ที่ 17 เมษายน 2564 หากท้องฟ้าเปิด ไม่มีเมฆมาก เราจะมีโอกาสสังเกตดวงจันทร์บังดาวอังคาร ซึ่งมองเห็นได้ทั่วประเทศ วันนั้นดวงจันทร์อยู่ในช่วงของการเป็นเสี้ยวข้างขึ้น ปรากฏอยู่ในกลุ่มดาววัวบนท้องฟ้าทิศตะวันตก การบังเริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 2 ทุ่มเศษ ดาวอังคารจะหายลับไปที่ขอบด้านมืดของดวงจันทร์ (ด้านบนเมื่อเทียบกับระนาบขอบฟ้า) ขณะนั้นดวงจันทร์อยู่สูงเหนือขอบฟ้าประมาณ 30° หลังจากนั้นราวหนึ่งชั่วโมง ดาวอังคารจะกลับมาปรากฏที่ขอบอีกด้านหนึ่งที่เป็นด้านสว่างพร้อมกับมุมเงยที่ลดลงใกล้ขอบฟ้ามากขึ้น
การบัง(occultation) เป็นปรากฏการณ์ที่วัตถุท้องฟ้าบังกัน ส่วนใหญ่ใช้กับวัตถุที่มีขนาดปรากฏใหญ่กว่ามาบังวัตถุที่มีขนาดปรากฏเล็กกว่า ดวงจันทร์บังดาวเกิดขึ้นบ่อยสำหรับดาวที่มีความสว่างน้อย แต่สำหรับดาวเคราะห์และดาวฤกษ์ที่สว่างมาก นาน ๆ เราจึงจะมีโอกาสเห็นได้สักครั้งหนึ่ง
ดวงจันทร์บังดาวเคราะห์เกิดขึ้นทุกปีปีละหลายครั้ง แต่สำหรับพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งบนโลก ไม่สามารถมองเห็นได้บ่อย ขึ้นอยู่กับแนวการเคลื่อนที่ของดวงจันทร์เทียบกับดาวเคราะห์ที่ถูกบัง บางครั้งการบังเกิดขึ้นในเวลากลางวัน ทำให้ไม่สามารถสังเกตได้ หรือสังเกตได้ยาก พ.ศ. 2564 ประเทศไทยมีโอกาสเห็นดวงจันทร์บังดาวเคราะห์ได้ครั้งเดียวจากทั้งหมด 6 ครั้ง
การสังเกตดวงจันทร์บังดาวทำได้ดีสำหรับดวงจันทร์ข้างขึ้นเนื่องจากดวงจันทร์จะหันขอบด้านมืดเข้าบังดาวก่อน ดาวจะหายไปเบื้องหลังด้านมืดของดวงจันทร์ หลังจากนั้นดาวดวงเดิมจะกลับมาปรากฏอีกครั้งที่ขอบด้านสว่าง แต่ถ้าเป็นข้างแรมจะกลับกัน
ดวงจันทร์บังดาวอังคารในวันที่17 เมษายน 2564 แต่ละพื้นที่ของประเทศไทยเห็นปรากฏการณ์ไม่พร้อมกัน รวมทั้งการเคลื่อนที่ของดาวอังคารเบื้องหลังดวงจันทร์ก็แตกต่างกันเล็กน้อย ตารางด้านล่างแสดงผลการคำนวณสำหรับกรุงเทพ และอำเภอเมืองของบางจังหวัด จังหวัดอื่น ๆ สามารถคาดคะเนได้จากจังหวัดใกล้เคียงที่อยู่ในภูมิภาคเดียวกัน หรือหากทราบพิกัดทางภูมิศาสตร์ (ละติจูด/ลองจิจูด) ของสถานที่ สามารถหาเวลาคร่าว ๆ ได้จากแผนที่ด้านล่าง
การบังครั้งนี้คาดว่าจะสามารถสังเกตการณ์ได้ด้วยตาเปล่าชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อดูผ่านกล้องสองตาหรือกล้องโทรทรรศน์ที่มีฐานยึดและขาตั้งที่มั่นคง ดาวอังคารอยู่ใกล้มากพอที่เราจะเห็นเป็นดวงกลมในกล้องโทรทรรศน์กำลังขยายสูง เมื่อเกิดปรากฏการณ์ดวงจันทร์บังดาวอังคาร ช่วงที่ดาวอังคารกำลังหายไปที่ขอบด้านมืดของดวงจันทร์ กล้องจะสามารถส่องเห็นดวงจันทร์ใช้เวลาประมาณ 15 วินาที นับตั้งแต่จังหวะที่ขอบดวงจันทร์เริ่มแตะขอบดาวอังคาร จนกระทั่งดวงจันทร์ค่อย ๆ บังดาวอังคารจนมิดหมดทั้งดวง ส่วนการสังเกตด้วยตาเปล่าหรือกล้องสองตาน่าจะพบว่าดาวอังคารหรี่แสงลงแล้วหายลับไปเบื้องหลังด้านมืดของดวงจันทร์
ช่วงสิ้นสุดปรากฏการณ์เมื่อดาวอังคารโผล่ออกมาจากด้านสว่างของดวงจันทร์ตาเปล่าจะสังเกตได้ไม่ชัดเจนเนื่องจากพื้นผิวด้านสว่างของดวงจันทร์ที่สะท้อนแสงอาทิตย์ทำให้ดวงจันทร์สว่างจนแทบจะกลบแสงของดาวอังคาร อุปสรรคอีกประการหนึ่งก็คือดวงจันทร์กับดาวอังคารจะเคลื่อนลงต่ำเข้าใกล้ขอบฟ้ามากขึ้น นอกจากประเทศไทยแล้ว หลายพื้นที่บริเวณใกล้เคียงก็มีโอกาสสังเกตปรากฏการณ์ในวันนี้ เช่น อินเดีย เกือบทั้งหมดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เกาะในทะเลอันดามัน และบางส่วนทางใต้ของจีน
หลังจากปีนี้ต้องรออีกนานประเทศไทยจึงมีโอกาสสังเกตดวงจันทร์บังดาวอังคารบนท้องฟ้าเวลากลางคืนได้อีกครั้ง โดยครั้งถัดไปจะเกิดในวันที่ 22 มีนาคม 2583 เห็นได้เกือบทั่วประเทศ ยกเว้นภาคใต้ตอนล่าง ระหว่างนั้นจะมีปรากฏการณ์ดวงจันทร์บังดาวเคราะห์ดวงอื่นให้เห็นได้หลายครั้ง ที่ใกล้ที่สุดคือดวงจันทร์บังดาวยูเรนัสขณะเกิดจันทรุปราคาเต็มดวงในค่ำวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 และดวงจันทร์บังดาวศุกร์ในค่ำวันที่ 24 มีนาคม 2566
●ดวงจันทร์บังดาวเคราะห์ที่เห็นได้ในประเทศไทย พ.ศ. 2555-2584
การบัง
การบัง
ดวงจันทร์บังดาวเคราะห์เกิดขึ้นทุกปี
การสังเกตดวงจันทร์บังดาวทำได้ดีสำหรับดวงจันทร์ข้างขึ้น
การสังเกตในประเทศไทย
ดวงจันทร์บังดาวอังคารในวันที่
สถานที่ | เริ่มบัง | สิ้นสุดการบัง | ||||
---|---|---|---|---|---|---|
เวลา | มุมเงย | มุมทิศ | เวลา | มุมเงย | มุมทิศ | |
กรุงเทพฯ | 20:13.8 | 34° | 291° | 21:25.3 | 18° | 292° |
ขอนแก่น | 20:19.2 | 31° | 290° | 21:20.1 | 18° | 291° |
เชียงใหม่ | 20:13.9 | 37° | 288° | 21:15.5 | 23° | 290° |
นครราชสีมา | 20:17.0 | 32° | 290° | 21:23.2 | 17° | 292° |
นครศรีธรรมราช | 20:13.4 | 32° | 294° | 21:30.8 | 15° | 294° |
ประจวบคีรีขันธ์ | 20:12.4 | 34° | 292° | 21:27.7 | 17° | 293° |
ภูเก็ต | 20:11.5 | 34° | 295° | 21:30.4 | 16° | 294° |
ระยอง | 20:14.8 | 32° | 292° | 21:26.8 | 16° | 293° |
สงขลา | 20:14.9 | 31° | 295° | 21:31.7 | 14° | 294° |
อุดรธานี | 20:20.1 | 32° | 289° | 21:17.9 | 19° | 291° |
อุบลราชธานี | 20:21.8 | 29° | 290° | 21:22.0 | 15° | 292° |
ภาพจำลองแสดงตำแหน่งดาวอังคารเทียบกับดวงจันทร์ในคืนวันที่ 17 เมษายน 2564 เมื่อสังเกตจากกรุงเทพฯ ขณะใกล้จะเริ่มการบัง (ซ้าย) และหลังจากสิ้นสุดการบังไม่นาน (ขวา) (จาก Stellarium)
แผนที่แสดงเวลาเริ่มและสิ้นสุดปรากฏการณ์ดวงจันทร์บังดาวอังคาร จากภาพจะเห็นว่าด้านตะวันตกของประเทศเริ่มเห็นการบังก่อนบริเวณอื่น ภาคใต้ตอนล่างสิ้นสุดการบังช้าที่สุด หากทราบตำแหน่งของสถานที่สังเกตการณ์ (ละติจูด/ลองจิจูด) สามารถคาดคะเนเวลาเริ่มและสิ้นสุดการบังได้จากแผนภาพนี้ (จาก วรเชษฐ์ บุญปลอด)
การบังครั้งนี้คาดว่าจะสามารถสังเกตการณ์ได้ด้วยตาเปล่า
ช่วงสิ้นสุดปรากฏการณ์เมื่อดาวอังคารโผล่ออกมาจากด้านสว่างของดวงจันทร์
การบังในอนาคต
หลังจากปีนี้
ดูเพิ่ม
●